เด็กกับนมหวาน
คุณพ่อคุณแม่หลายท่านชอบที่จะซื้อนมหวานให้ลูกกิน โดยเห็นว่านมหวานกินง่าย ไม่ต้องคะยั้นคะยอเหมือนเวลาให้ลูกกินนมจืด เด็กบางคนติดใจถึงขนาดยอมกินนมเป็นกิจวัตร คุณพ่อคุณแม่ก็ดีใจ แต่ทราบหรือไม่ว่าในความหวานนั้นมีพิษภัยอะไรซ่อนอยู่บ้าง มีผลวิจัยยืนยันจากกองทันตสาธารณสุขกรมอนามัยว่า นมหวานมีผลเสียกับเด็กเล็กอย่างไม่น่าเชื่อ
ผลเสียประการแรกคือฟันผุ
เด็กไทยฟันผุกันมากถึงร้อยละ ๘๐ และท่ีน่าตกใจกว่านั้นคือ มีการสำรวจพบโรคฟันผุในเด็กเล็กอายุไม่ถึงขวบ ซึ่งปกติเด็กจะมีฟันน้ำนมขึ้นเมืออายุประมาณ ๖ เดือน แสดงว่าเด็กกลุ่มนี้ฟันน้ำนมขึ้นมาได้ไม่กี่วันก็ผุเสียแล้ว และยังมีงานวิจัยชี้ชัดว่าเด็กนักเรียนทั่วประเทศที่กินนมรสหวานเป็นโรคฟันผุกันมากกว่าเด็กที่กินนมจืด
กุมารแพทย์หลายท่านได้อธิบายว่า เด็กที่กินนมหวานอาจเป็นโรคอ้วน ซึ่งจะเป็นประตูใหญ่นำไปสู่โรคร้ายอื่นๆอีก เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคข้อเข่า โรคหายใจลำบาก เป็นต้น
นอกจากโรคอ้วน เด็กบางรายกลับผอมถึงกับขาดสารอาหาร เด็กที่พ่อแม่หรือผู้เลี้งดูชอบซื้อนมหวานให้กิน มันจะลงเอยด้วยอาการ ‘ ติดหวาน’ เมื่อเอานมจืดมาแลกก็ไม่ยอม เด็กจะติดหวานเรื่อยไปจนกระทั่งโต เด็กเหล่านี้จะไม่ชอบกินผักผลไม้ หรืออาหารที่เป็นประโยชน์ แต่จะติดขนมหวาน น้ำอัดลม และอาหารหวานๆมันๆ ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อไปอีกมาก ทั้งนิสัยการกิน สุขภาพ และเสียสตางค์ค่าขนมหวาน
“ประมาณกันว่าเด็กไทยซึ่งมีจำนวน ๑๕ ล้านคน เสียค่าขนมที่ไร้ประโยชน์เป็นมูลค่ามากถึงปีละ ๑ แสนล้านบาท”
เรื่องน้ำหวานอัดลม ขนมหวานต่างๆ จึงเป็นปัญหาใหญ่ที่คนทั้งประเทศมองข้ามกันมานาน และยังไม่มีทีท่าว่าจะแก้ไขกันอย่างไร
เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีมติของคณะกรรมการอาหารที่จะควบคุมไม่ให้มีการใส่น้ำตาลปนกับผลิตภัณฑ์นมสำหรับเด็กเล็ก ที่เรียกกันว่า ‘นมสูตรต่อเนื่อง’ (follow-on formula) ซึ่งใช้กับเด็กอายุ ๖ เดือนขึ้นไป จนถึง ๓ ขวบ
ในเมืองไทยจะมีเด็กเล็กช่วงวัยดังกล่าวอยู่จำนวนกว่า ๒ ล้านคน และนักวิชาการประมาณกันว่าเด็กกลุ่มนี้ประมาณ ๓ ใน ๔ หรือประมาณ ๑.๕ ล้านคนกินขนมหวาน โดยคาดว่ามาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้