Skip to content. | Skip to navigation

Personal tools
Log in
This Logo Viewlet registered to qPloneSkinBusiness4 product
You are here: Home ระฆังเบิกบาน

ระฆังเบิกบาน

ระฆังเบิกบาน
เขียนโดย ระพีพรรณ พัฒนาเวช กรรมการสมาคมไทสร้างสรรค์ (สงวนลิขสิทธิ์)
ระฆังเบิกบาน

ระฆังเบิกบาน

เป็นหนังสือภาพสำหรับเด็กที่แฝงธรรมะเอาไว้อย่าง ลึกซึ้งระฆังเบิกบานคือความหมายของการทำหน้าที่ของตนเองให้ดีท่ีสุด แม้ดูเหมือนว่าหน้าที่ที่ทําอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่เกี่ยวข้องส่งผลกับใครหรือสิ่งใด แต่ในความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ทุกสิ่งล้วนเกี่ยวข้องเช่ือมโยงกันทั้งสิ้นเช่นเดียวกับระฆังใบน้อยนี้

Untitled13.jpgเนื้อเรื่องระฆังเบิกบานพูดถึงระฆังใบหนึ่งที่แขวน อยู่บนกิ่งไม้ทกุๆวันเณรน้อยจะมาเคาะระฆัง เณรน้อยเคาะระฆังทุกวัน ระฆังส่งเสียงดังกังวานไปไกล แต่แล้ววันหน่ึงระฆังเกิดเบื่อขึ้นมาจึงบอกให้เณรน้อยหยุดเคาะระฆัง เมื่อเณรน้อยหยดุระฆัง ก็ไม่เกิดเสียงดังกังวาน... ไก่ที่เคยขันขับขานก็เงียบหงอย ผู้คนที่เคยเบิกบานก็ เงียบเหงา ดอกไม้ที่เคยเบ่งบานก็เหี่ยวเฉา ระฆังเองก็เศร้าสร้อยจนตัวเองรู้สึกได้ จึงขอให้เณรน้อยกลับมาเคาะระฆัง ทุกสิ่งที่เคยเงียบเหงาก็กลับเบิกบานอีกครั้ง

 

ระฆังเบิกบาน บอกอะไรแก่เด็กๆ...ช่วยกันคิด

ระฆังเบิกบานกับการพัฒนาประสาทสัมผัสของเด็กเล็ก


หนังสือเล่มนี้มีเสียงท่ีเด่นชัดมาก คือเสียงของระฆัง เสียงไก่ขัน เสียงเณร (พระ)สวดมนต์ เราสามารถใช้ระฆังเบิกบานฝึกฝนให้เด็กๆได้เปิดรับสัมผัสทางหูอย่างตั้งใจ หากศนูย์พัฒนาเด็กเล็กที่ใดอยู่ในวัดก็ยิ่งสะดวกมาก พาเดินไปเคาะระฆังเคาะเบาๆ เคาะแรงๆ เคาะแล้วเว้นนานๆ เคาะถี่ๆ ใช้ไม้ใหญ่ ใช้ไม้เล็ก สลับกัน แล้วลองฟังดูสิว่าเด็กๆได้ยินเสียงต่างกันอย่างไร ในความแตกต่างน้ีเด็กเล็กๆอาจจะยังแยกไม่ได้ และโอกาสเองที่คุณครูจะเป็นผู็ชี้แนะแยกแยะให้เด็กๆลองฟังอย่างต้ังใจasa.jpg

Untitled14.jpgเสียงไก่ขัน

ก็คือเสียงไก่ขันเด็กๆหรือแม้แต่ผู้ใหญ่เองก็แยกแยะไม่ออกเพราะไม่เคยหยุดตั้งใจฟังไก่แต่ ละตัวขันเสียงคล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน พ่อไก่ แม่ไก่ก็ส่งเสียงขันฟังต่างๆ ไก่แต่ละสายพันธุ์ก็ขันเสียงต่างกัน

เสียงพระสวดมนต์

เป็นเสียงโทนต่ำ จึงมีผลต่อคลื่นสมอง ช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบและพร้อมที่จะะเรียนรู้เด็กๆในศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์ในวัดจะมีโอกาสดีกว่าเพื่อน เพราะเดินนิดเดียวก็ถึงวัดแล้ว คณุครูควรหาโอกาสพาเด็กๆฟังพระสวดมนต์บ้างแม้จะไม่เข้าใจความหมายแต่เสียงสวดมนต์มีผลทำให้เด็กๆเกิดสมาธิได้ ในครั้ง แรกๆอาจจะยากสักหน่อย คุณครู ควรต้องกราบนมัสการเรียนให้พระท่านทราบถึงวัตถุประสงค์ก่อนที่จะนําเด็กมาฟังพระสวดมนต์หรือก่อนจะนิมนตพ์ระมาสวดมนต์ให้เด็กๆฟังและไม่ควรให้เด็กๆนั่งอยู่นานเกินไปในการฟังพระสวดมนต์ครั้งแรกๆ

กิจกรรมนี้ต้องการความร่วมมือกันระหว่างวัดกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กๆ ซึ่งจะแตกต่างไปจากการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเมื่อรับทราบและเข้าใจในวัตถุประสงค์ร่วมกันเช่นนี้แล้วผู้ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงก็คือเด็กๆ

ระฆังเบิกบานกับการพัฒนาประสาททางจมูก

นอกจากการฟังเสียงที่มองเห็นเด่นชัดมากในหนังสือเล่มน้ี คุณครูยังสามารถใช้กิจกรรมกระตุ้นประสาทการดมกลิ่นของเด็กๆได้นั้นคือกลิ่นดอกไม้....

คุณครูอาจจะเตรียมดอกไม้มาให้เด็กๆได้ดม หรือให้เด็กๆเตรียมกันมาจากบ้าน เมื่อ่านหนังสือจบลงคุณครูกระตุ้นประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นของเด็กๆได้ทันที ไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือความสามารพิเศษใดๆเลยเมื่อเด็กดมดอกไม้แล้วอาจจะแยกแยะได้เพียงกลิ่นหอมกับไม่หอมเท่าน้ันความจริงพวกเขาจะได้กลิ่นหอมที่แตกต่างกันออกไปแต่จากประสบการณ์ชีวิตที่น้อยนิดจึงบอกไม่ได้ว่าดอกไม้หอมแตกต่างกันอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเด็กๆก็ได้รับรู้แล้วว่ากลิ่นหอมนั้นก็มีความแตกต่าง

ระฆังเบิกบานกับการพัฒนาประสาทสัมผัสทางผิวกาย

เมื่อคณุครูพาเด็กๆเคาะระฆังแล้ว ลองให้เด็กๆใช้ฝ่ามือหรือหลังมือ แตะระฆังดูว่ารู้สึกอย่างไร เย็นถ้าระฆังอยู่ในร่มและอุ่นหรือร้อนเมื่อระฆังอยู่กลางแดด (คุณครูอธิบาย) จากนั้นลองให้เด็กใช้ฝ่ามือลูบผิวระฆังดูว่าเรียบหรือขรุขระ และลองลูบเปลือกต้นไม้ดูว่าแตกต่างกับผิวของระฆังหรือไม่ (คุณครูแนะนำเด็กๆ)

ส่วนการรับรู้ทางใจเป็นความรู้สึกที่เป็นนามธรรมและยากต่อการอธิบายให้เด็กเล็กๆเข้าใจคือความรู้สึกที่มีต่อส่ิงใด หรือการกระทําใดๆ คุณครูสามารถช่วยบอกเด็กๆถึงความรู้สึกยินดีเบิกบาน เศร้า เหงาหงอยให้เด็กๆเข้าใจได้อย่างง่ายๆ โดยอธิบายผ่านความรู้สึกที่แสดงออกทางสีหน้าของเณรน้อย ของผู้คน หรือแม้แต่ท่าทางการแสดงออกของไก่ ดอกไม้ และระฆัง เพื่อให้เด็กๆได้เรียนรู้จักเรื่องอารมณ์

Untitled15.jpg