Skip to content. | Skip to navigation

Personal tools
Log in
This Logo Viewlet registered to qPloneSkinBusiness4 product
You are here: Home

การอ่าน - ประเทศไทยขาดอะไร ?

#หนังสือเพื่อการอ่านคือความจำเป็นพื้นฐานที่เด็กทุกคนต้องได้รับ #ความรู้ทางการอ่านเป็นสิ่งที่ต้องสร้าง

 

ปัญหาการอ่านในประเทศของเราสามารถแบ่งออกเป็นสองประการหลัก ได้แก่
copy_of_5.jpg

ประการแรก: ความขาดแคลนหนังสือสำหรับเด็กไทย
เราเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนหนังสือสำหรับเด็กในระดับวิกฤติมาโดยตลอด และเป็นเรื่องที่ทุกคนรับรู้กันดี  จนถึงปัจจุบัน ก็ยังคงเป็นเรื่องยากที่โรงเรียนใดจะมีหนังสือเพียงพอสำหรับนักเรียนทุกคน แม้โรงเรียนขนาดเล็กบางแห่งจะมีหนังสืออยู่บ้าง แต่ก็เป็นหนังสือเก่า ๆ เช่น นิตยสาร นวนิยาย หรือหนังสือประกอบการเรียนที่ขาดความน่าสนใจและไม่สามารถกระตุ้นให้เด็กอ่านได้อย่างแท้จริง ส่วนหนังสืออ่านเล่นที่เหมาะสมกับวัยเด็ก เช่น นิทานภาพหรือหนังสือช่วยเสริมทักษะ ก็มีจำนวนน้อยและไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ปัญหานี้สะท้อนให้เห็นว่า เรามองว่าเด็กควรได้รับหนังสือเป็นสิทธิพื้นฐานจากรัฐในทุกปี แต่เรากลับไม่ได้มีระบบจัดสรรหนังสือให้เด็กทุกคนอย่างเพียงพอ โรงเรียนมีงบประมาณจำกัดและต้องใช้ไปกับค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ แม้บางโรงเรียนจะสามารถจัดงบซื้อหนังสือได้บ้าง แต่ก็ยังมีไม่เพียงพอ และขาดความสม่ำเสมอ

หากเรามีระบบจัดสรรหนังสือให้เด็กตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีละ 1 เล่ม หรือ 4 เล่มต่อคนต่อปี งบประมาณที่ต้องใช้จะไม่เกิน 2,200 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่มากนัก และหากเพิ่มเป็น 4 เล่มต่อคนต่อปี ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาท หรือไม่ถึง 0.001% ของงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่กระทบงบประมาณมากนัก แต่จะให้ผลดีอย่างมหาศาลในระยะยาว


ในกรณีที่รัฐบาลไม่มีงบประมาณสนับสนุน เราก็ต้องพึ่งพาผู้บริจาค แต่เมื่อเปรียบเทียบกับความต้องการที่แท้จริงของเด็ก ๆ การบริจาคหนังสือก็ยังไม่เพียงพอต่อการตอบสนองความต้องการพื้นฐานนี้

ประการที่สอง: การขาดความรู้ในการส่งเสริมการอ่าน
การรู้หนังสือเป็นสิ่งสำคัญที่กำหนดอนาคตของบุคคลและสังคม การส่งเสริมการอ่านในโรงเรียนจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยปลูกฝังความรักในการเรียนรู้ตลอดชีวิต แต่ปัญหาคือหลายโรงเรียนยังขาดครูที่มีความรู้และทักษะในการส่งเสริมการอ่านอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้การพัฒนาทักษะการอ่านของเด็ก ๆ ชะงักงัน และกลายเป็นปัญหาที่ไม่มีใครตระหนักถึง
การพัฒนาการอ่านต้องอาศัยทักษะการสอนที่หลากหลายและเหมาะสมกับนักเรียนแต่ละคน แต่ครูที่ไม่ได้รับการฝึกฝนมักขาดทักษะเหล่านี้ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาเด็กให้เป็นนักอ่านที่ดีได้ และทำให้การสอนอ่านกลายเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน

ครูที่ได้รับการฝึกฝนจะเข้าใจขั้นตอนการพัฒนาทักษะการอ่านในระดับต่าง ๆ และสามารถคัดเลือกหนังสือที่เหมาะสมกับความสนใจและความสามารถของนักเรียนแต่ละคน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เด็กสนใจการอ่านมากขึ้น แต่ครูที่ไม่ได้รับการฝึกฝนมักขาดความเข้าใจในเรื่องนี้ จึงไม่สามารถกระตุ้นให้นักเรียนรักการอ่านได้

การส่งเสริมการอ่านในโรงเรียนยังต้องอาศัยการมีหนังสือที่หลากหลายและเหมาะสม ครูที่ได้รับการฝึกฝนจะสามารถเลือกหนังสือที่เหมาะสมกับนักเรียนได้อย่างดี แต่ครูที่ขาดการฝึกฝนอาจมุ่งเน้นไปที่การอ่านเพื่อตอบโจทย์หลักสูตร หรือการทดสอบมากเกินไป ซึ่งจะทำให้เด็กขาดความสนใจในการอ่าน และทำให้ผลลัพธ์ในการพัฒนาทักษะการอ่านลดลง
การส่งเสริมการอ่านในโรงเรียนยังต้องการการประเมินความสามารถในการอ่านของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง ครูที่ได้รับการฝึกฝนจะสามารถระบุและช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาการอ่านได้อย่างตรงจุด แต่ครูที่ไม่ได้รับการฝึกฝนอาจไม่สามารถช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่มีปัญหานี้ได้ ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านการเรียนรู้ของนักเรียนในระยะยาว

ดังนั้น การส่งเสริมการอ่านในโรงเรียนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องอาศัยครูและผู้บริหารการศึกษาที่มีความรู้และทักษะในการพัฒนาเด็กให้มีทักษะการอ่านที่ดี หากประเทศต้องการพัฒนาเด็กให้กลายเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิต จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลงทุนในการพัฒนาครูให้มีความรู้ ความเข้าใจ และความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ รักการอ่าน เพื่อให้เด็กทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มที่