หัวผักกาดยักษ์
ตอลสตอย เป็นสกุลใหญ่ในรัสเซีย มีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคน อาทิ ลีโอ ตอลสตอย นักเขียนรางวัลโนเบล เจ้าของผลงาน "สงครามและสันติภาพ" มหากาพย์ ที่ชาวรัสเซียภาคภูมิใจ รวมทั้ง อเลกเซ ตอลสตอย (เป็นบุตรของเคานท์ท่านหนึ่ง) ผู้เล่าเรื่องหัวผักกาดยักษ์ ที่ต่อมากลายเป็นหนังสือภาพสำหรับเด็กที่มีชื่อเสียงเรื่องหนึ่งของโลก ซึ่งออกจะน่าแปลกอยู่สักหน่อย เพราะเขาเป็นนักเขียนนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ นิยายวิทยาศาสตร์ (คนแรกๆของสหภาพโซเวียต) และเป็นนักเขียนบทละครที่ประสบความสำเร็จมาก กระทั่งได้รับรางวัลเลนินถึง ๓ ครั้ง นอกเหนือจากการเป็นคอมมิวนิสต์ตัวยง แต่คราวเกิดการปฏิวัติรัสเซียไปสู่สหภาพโซเวียต เขากลับคัดค้านหัวชนฝา ก่อนจะอพยพไปอยู่ประเทศฝรั่งเศษหลายปี หลังจากนั้นกลับไปเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ที่เป็นปากเสียงให้รัฐบาลเยอรมันตะวันออก นอกจากนั้นเขาไม่ได้มีทีท่าว่าจะมีความเกี่ยวข้องอันใดกับกิจกรรมของเด็กๆ แต่ที่สุดเขาก็เริ่มแต่งเรื่องสำหรับเด็ก (เข้าใจว่าเป็นเพราะแรงกระตุ้นจากลูก) แม้จะมีจำนวนไม่มากนักแต่ก็ประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับและแพร่หลายไปทั่วโลก โดยเฉพาะหัวผักกาดยักษ์ ที่ได้รับการตีพิมพ์และวาดภาพประกอบโดยศิลปินหลายคน หลายฉบับ รวมทั้งคุณยาย Helen Oxenbury ผู้ประพันธ์หนังสือภาพสำหรับเด็กเล็กระดับคลาสสิคชาวอังกฤษ
หัวผักกาดยักษ์ ฉบับที่พิมพ์โดยสำนักพิมพ์แพรวเพื่อนเด็ก วาดภาพโดยศิลปินชาวญี่ปุ่น พิมพ์ครั้งแรกในพ.ศ ๒๕๐๕ และยังพิมพ์ต่อเนื่องในประเทศญี่ปุ่นมาจนถึงปัจจุบันกว่า ๓๐๐ ครั้งแล้ว (ข้อมูล พ.ศ ๒๕๕๐) เป็นข้อพิสูจน์ถึงความเป็นอมตะและพลังการตีความของศิลปินได้อย่างชัดเจน รามทั้งความทุ่มเทและคุณค่าที่ให้ต่อหนังสือภาพสำหรับเด็กอย่างสูงยิ่ง
ชูเรียว ซาโต้ เข้าไปใช้ชีวิต ศึกษาชาวรัสเซียเป็นเวลานับปี เพียงเพื่อจะถ่ายทอดเรื่องราวในบริบทของชุมชนต้นกำเนิดนิทานเรื่องหนึ่ง ตัวละครในหนังสือจึงเป็นภาพชาวรัสเซีย วาดภาพอย่างรัสเซีย แม้จะตัดทอนตัวละครบางตัวออกไปเพื่อเก็บเรื่องให้กระชับก็ตาม (เรื่องเดิมมีนกโรบิน เป็ดและสัตว์อื่นๆรวมอยู่ด้วย)
หัวผักกาดยักษ์ฉบับของชาวญี่ปุ่น จึงมีความเป็นรัสเซียมากที่สุด มากกว่าของฝรั่งใกล้บ้านที่รู้จักชาวรัสเซียดีกว่าชาวพระอาทิตย์อุทัยมากนัก อันแสดงถึงความใจกว้างและการให้เกียรติอย่างสูงต่อประเทศต้นกำเนิดของเรื่องราวและให้เกียรติต่อผู้ประพันธ์